หน้าเว็บ

วันอังคาร, เมษายน 20, 2553

สรุปหนังสือ ผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณ

สรุปหนังสือ ผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณ

สรุปหนังสือ ผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณ

โดยชัชวาลย์ พัฒนาไพบูลย์

1. ความปรารถนาอันประเสริฐ เปาโลได้กล่าวไว้ว่าความปรารถนาการเป็นผู้นำเป็นสิ่งประเสริฐ 1ทธ3.1 เมื่อเราทะเยอทะยานในการรับใช้พระเจ้าก็น่าจะเป็นผลดี เปาโลใช้คำนี้เพราะว่าในสมัยก่อนมีแต่การทนทุกข์ เปาโลจึงคาดหวังที่จะให้คนมารับใช้พระเจ้า เพราะว่ามีแต่บำเหน็จ ในสวรรค์ ในโลกอาจถูกบางคน ดูหมิ่น ทำร้าย คนที่รับใช้พระเจ้าไม่ได้มีแรงจูงใจมาจากพระเจ้า หรือครูเทียมเท็จ สุดท้ายต้องเลิกไป สิ่งที่เปาโลพูด คือ บทบาทหน้าที่ ไม่ใช่ตำแหน่ง พระเยซูได้วางหลักไว้ ใน มก 10.42-43 คือผู้ใดที่จะเป็นใหญ่ต้องเป็นผู้ปรนนิบัติ กล่าวโดยรวมคือ ให้ มากกว่าได้

2. รู้จักสรรหาผู้นำ พระเจ้ามองหาบางคน 1ซมอ13.14 ,ยรม5.1 ,อสค 22.30 ข้อพระคัมภีร์พยายามบอกว่าต้องหาซัก 1 คนเพื่อทำบางอย่างคริสตจักรต้องการผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณ วิธีการเดียวที่เห็นคือ การแสดงคุณสมบัติออกมาให้ปรากฏ หรือเริ่มก้นดูจากลักษณะชีวิต(หรือผลพระวิญญาณ กท5.22-23 ผู้สรุป) ผู้นำที่อยู่เฉพาะตำแหน่ง ถ้าไม่นำจิตวิญญาณ คนให้สูงขึ้น เขาก็จะทำให้คนตกลงโดยไม่ได้เจตนา

3.หลักเกณฑ์พื้นฐานที่สำคัญที่สุดของการเป็นผู้นำ ใน มก10.43-44 บ่งบอกถึงการเป็นสุดยอดผู้นำคือ ผู้รับใช้ และพระเยซูบอกกับ สาวกว่า พระเจ้าแต่งตั้งผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณ และ ผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณต้องทนทุกข์อย่างแน่นอน ในอสย 42.1-5 บอกถึงหลักการเป็นผู้รับใช้ 1.พึ่งพาพระเจ้า 2. ยอมรับพระเจ้า 3.ถ่อมใจ 4. เห็นอกเห็นใจผู้อื่น 5. มองในแง่ดี 6. รับการเจิมจากพระวิญญาณบริสุทธิ์

4.ผู้นำธรรมชาติกับผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณ ผู้นำคือผู้แผ่อิทธิพล หลายความหมายบางคนว่า คือผู้ปลุกเร้าให้คนอื่นทำตาม หรือ คือผู้ที่มีคุณสมบัติดลจิตใจผู้อื่น หรือคือพวกที่ทำให้คนอื่นก้าวออกไปด้านหน้า ผู้นำฝ่านธรรมชาติเป็นอย่างไรผู้นำฝ่ายวิญญาณก็น่าจะมีด้วยแต่ไม่ใช่บุคลิคของตัวเองแต่มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ การเป็นผู้นำนั้นอาจมาจากทั้งพระสวรรค์และพรแสวง ด้วยแต่สิ่งที่สำคัญ คือต้อง ประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ แม่มีบุคลิคดีแต่ไม่มีฝ่ายวิญญาณ คริสตจักรก็ไม่ควรมอบงานให้แม้แต่งานเดียว

5.ลักษณะของคนแนวโน้มจะเป็นผู้นำ น่าจะเป็นคนที่มีบุคลิกคล้ายกับพระเยซู คิดเชิงบวก อธิษฐาน ขอให้สิ่งนี้เกิดขึ้น และขอเพื่อปกป้องไม่ให้เกิดบางอย่างเช่น อ่อนไหว เก็บความลับไม่อยู่ อยู่แต่ในลัทธิ สมบูรณ์นิยม คิดว่าตัว พร้อม ไม่ต้องเปลี่ยน

6.มองผู้นำในมุมต่างๆ 1ทธ3.2-7เปาโลเป็นตัวอย่าง ยิ่งอายุความเชื่อมากจิตวิญญาณต้องโตมาก ผู้นำควรมีคุณสมบัติด้านสังคม เป็นคนไม่มีที่ติ ชีวิตย่อมมีน้ำนักกว่าคำพูด ด้านจริยธรรม ด้านจิตใจ ด้านบุคลิกภาพ ด้านการดูแลครอบครัว ด้านการเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายจิตวิญญาณ ผู้ใหญ่จะรับผิดชอบงานจนกว่าจะเสร็จ

7.ผู้นำ ผู้เลี้ยง เปโตรเป็นผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณและเป็นผู้เลี้ยง งานของผู้เลี้ยง จะไม่มีประสิทธิภาพหากไม่มีจิตใจแห่งการเป็นผู้เลี้ยงแกะ จิตใจผู้เลี้ยง คือ 1. มีแรงจูงใจถูกต้อง ไม่ได้ถูกบังคับแต่ทำเต็มที่ 2.ไม่เห็นแก่ตัว เมื่อคนเห็น คำสอนจะมีน้ำหนักและน่าไว้วางใจ 3.ไม่เป็นนักเผด็จการ 4.ควรมีความถ่อมใจ

8.คุณสมบัติพื้นฐานผู้นำ ตอนที่ หนึ่ง พระเจ้าเตรียมสิ่งพิเศษเพื่อคนของพระองค์เสมอ แต่ผู้นำที่ดีต้องพัฒนาสิ่งที่พระเจ้าให้ให้มากขึ้น 1. มีวินัย เขาสามารถเป็นผู้นำที่ชนะตัวเองได้ 2.มีนิมิต เห็นภาพในอนาคต และพร้อมที่จะตัดสินใจตามนิมิต 3.มีสติปัญญา มีการตัดสินใจโดยอาศัยหลักความจริง และควบคู่กับไหวพริบ คือวินิจฉัยอย่างถ่องแท้ 3.มีการตัดสินใจ ฉับไวตามข้อมูล 4.มีความกล้าหาร มีพระวจนะอยู่ในชีวิต และไม่ยอมจำนนอยู่ในความกลัว 5.มีความถ่อมใจ 6.ยึดถือคุณธรรมมีความจริงใจ

9.คุณสมบัติพื้นฐานผู้นำ ตอนที่ สอง 1.อารมณ์ขัน เป็นสิ่งที่เราต้องปลูก สร้าง ควบคุม 2.มีความโกรธ เกลียดความบาป โกรธต่อความไม่ยุติธรรม 3.มีความอดทน 2ปต1.6 เป็นชัยชนะต่อการทดลอง ทำให้เราผ่านมรสุมชีวิตได้ 4.มีความเป็นมิตร แสดงความรักด้วยความจริงใจ 5.มีปฎิภาณไหวพริบ มีความเข้าใจว่าอะไรเหมาะหรือไม่เหมาะ 6. มีพลังเร้าใจ คือทำให้ทุกคนโอนเอนไปในทิศทางที่เราต้องการ 7.มีความเข้าใจในการบริหารคือการเลียนแบบระบบ และวิธีการของพระเจ้ารู้จักเลือกคน ใช้คน 8.มีศีลปะในการฟัง นักฟังที่ดีย่อมได้ใจคน 9.มีศิลปะในการเขียน การเขียนเป็นสิ่งที่เปิดเผยตัวเรา

10.ผู้นำขาดคุณสมบัติข้อนี้ไม่ได้ คือการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์พระเจ้ามิได้บังคับใครถ้าเราไม่เลือกพระองค์ พระองค์ก็จะถอนตัวจากเราไปอย่างเงียบ เงียบ ในกิจการเมื่อคริสตจักรเริ่มต้นผู้นำ ที่เริ่มเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ จุดเด่นคือ ทำให้คนเหมาะสมกับงานที่ตนทำ

11.ผู้นำต้องอธิษฐานพึ่งพิงพระเจ้า ผู้นำหลายคนปลื้มใจในการอธิษฐาน แต่ก็ละเลยในการอธิษฐาน หลายคนบอกว่า คำอธิษฐานเหมือนลมหายใจแต่เขาดำเนินชีวิตเหมือนคนไม่หายใจ การอธิษฐานอย่างจริงจังไม่ใช่อยู่ในภาวะที่เลื่อนลอย แต่เป็นการใช้เรี่ยวแรงอย่างมาก พระเยซูอธิษฐานด้วยน้ำตาไหล ต้องเป็นการพยายามดิ้นเพื่อคำตอบ อธิษฐานในพระวิญญาณ อาจมีความหมาย 2 อย่าง คือในขอบเขตของพระวิญญาณ และ โดยฤทธานุภาพของพระเจ้า เมื่อเราอธิษฐานเราจะเจอ 3 อย่าง 1. บาปที่อยู่ในใจ 2.ความรู้อันจำกัด 3.ความอ่อนแอฝ่ายร่างกาย เมื่อเราอธิษฐานและยังไม่เห็นผลเราควรพิจารณา1.การกระทำสอดคล้องกับพระวจนะ ให้พระเจ้านำเราก้าวจากความหวังไปสู่ความเชื่อ 2.อธิษฐานอย่างไม่มีข้อสงสัย

12ผู้นำบริหารเวลา ผู้รับใช้พระเจ้าเป็นคนที่มีงานเต็มมืออยู่แล้ว ขึ้นอยู่ว่าเราจัดสรรเวลาอย่างไร การจัดตารางเวลา สำคัญก่อน หลัง ภาระที่ผูกพันกับพระคริสต์คือทำงานพระองค์ให้สำเร็จตามเวลา การผัดผ่อนเป็นตัวขโมยเวลา

13.รู้จักเลือกหนังสือที่อ่าน ผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณต้องสนใจ ตีความหมายพระคัมภีร์อย่างขมักเขม้น และได้รับการดลใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ อ่านเพื่อวิเคราะห์ไตร่ตรอง น่าอ่านหนังสือกระตุ้นความคิด ระมัดระวังในการเลือกอ่าน อ่านให้เหมาะ และสร้างเป้าหมาย อ่านง่าย แต่ซึมเข้าสมอง ยาก อ่านและจด เราจะพบว่าเราจำได้ดีขึ้น

14 พัฒนาศักยภาพของผู้นำ เราเป็นผู้ส่งอิทธิพลต่อคนอื่น และสามารถพัฒนาของประทานการเป็นผู้นำได้ เริ่มต้นหาจุดอ่อน และทุ่มเทชีวิตจะได้ เป็นคนเอาจริงเอาจัง และ จะสามารถรักษาความสำเร็จได้ การพัฒนาจะเข้าใจถึงการรับผิดชอบในฝ่ายต่างๆ 1.การบริหารงาน 2.สภาพฝ่ายวิญญาณ 3.ขวัญกำลังใจกลุ่ม 4.ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล 5.การแก้ไขปัญหา 6.การวางแผนอย่างสร้างสรรค์

15 เป็นผู้นำก็ลำบากเหมือนกัน 1. เสียสละตัวเอง วิถีแห่งไม้กางเขน 2.บางครั้งความรู้สึกโดดเดี่ยว 3.ยามล้าหมดแรง โลกเราพัฒนาได้เราะมีคนยอมเหนื่อย 4.ถูกวิจารณ์ ทัศนะเปลี่ยนคำติเตียนเป็นคำอวยพร สิ่งที่จะเสียกลับไม่เสีย 5.บางคนไม่ยอมรับ 6.เผชิญแรงกดดันแห่งความสับสน พระเจ้าเห็นเราเป็นผู้ใหญ่ จึงเปิดโอกาสให้เราใช้ สติปัญญามากขึ้น 7.ความสัมพันธ์กับคนอื่น 8.ปฏิกิริยาของผู้ที่ไม่เห็นด้วย งานหลักของเราคือให้คนเห็นด้วยกับพระเจ้า

16.ผู้นำต้องรับผิดชอบ ผู้นำเป็นผู้รับใช้และเห็นประโยชน์ของผู้อื่นก่อน และต้อง 1.เห็นอกเห็นใจ 2.ฝึกให้คนอื่นมีวินัย 3.ชี้แนะแนวทาง 4.นำความคิดริเริ่ม เพื่อวางแผน พัฒนา

17.การทดสอบผู้นำ มาเพื่อดูความเหมาะสม1.การประนีประนอมคือการลดมาตรฐาน 2.ความมักใหญ่ใฝ่สูง 3.สถานการณ์ที่แก้ไม่ตก 4.ความล้มเหลว เรียนรู้จักความล้มเหลวเพื่อจะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จ 5.ความอิจฉา

18.ศิลปะในการมอบหมายงาน ผู้นำคือผู้รู้จักความจำกัดของแต่ละคน การกระจายงานเป็นการสร้างผู้นำ เยโธร เห็น ปัญหา 2 อย่างในโมเสส คือ 1.โมเสสเหนื่อย 2.โมเสสช้า โมเสสทำตามคำแนะนำและเห็น 1.ทำงานที่สำคัญกว่าได้ 2.ทำให้เรียนรู้ความจำกัด

19.ผู้สืบทอดตำแหน่ง ดูจากงานที่เราได้มอบหมายให้เขายังดำเนินต่อไปได้ไหม เมื่อเขาละจากงานนั้น คือตัวพิสูจน์ได้ดี ส่วนใหญ่ เมื่อผู้ก่อตั้งตายไปงานสะดุด สิ่งที่น่าสังเกตคือพระเจ้าให้สิ่งสำคัญคือ คน คจ.ยุคแรก 12 คน และคจ.ยังอยู่ ลักษณะคนที่ยินยอม คือเลิกพึ่งความสามารถของตัวเอง

20 การผลิตผู้นำ ผู้นำควรสร้างตัวตาย ตัวแทน การฝึกผู้นำไม่ได้เป็นการปั๊ม ออกมาเหมือนเครื่องจักร แต่มาจากการสอนด้วยความอดทนระมัดระวัง อธิษฐาน นำทีละคน เป็นส่วนตัว

21.ผู้นำต้องระวังสิ่งเหล่านี้ ซาตานคือศตรูที่ไม่มีวันหยุด 1.ความเย่อหยิ่ง เป็นบาปที่ไม่รู้สึกแต่ทราบได้ ทดสอบการกระทำ จริงใจ และวิจารณ์ 2.บ้าตัวเอง 3.อิจฉา 4.ความมีชื่อเสียง 5.คิดว่าตัวเองไม่ผิดพลาด 6.คิดว่าขาดตนเองไม่ได้ 7.ดีใจเศร้าใจ เพราะว่ามีความไม่แน่นอนเสมอ 8.ผู้นำหรือผู้เผยพระวจนะ 9.ความไม่ถึงมาตรฐาน

22.เนหะมีย์ ตัวอย่างผู้นำสำหรับคนปัจจุบัน อุปนิสัย เป็นนักอธิษฐาน กล้าหาร เห็นอกเห็นใจ มองการณ์ไกล ระมัดระวังไม่เสี่ยง กล้าตัดสินใจ เริ่มทันที ไม่ลำเอียง นำคนพบพระเจ้า รับผิดชอบและ เป็นนักบริการที่เอาจริงเอาจัง วิธีการ1.สร้างขวัญกำลังใจ 2.ชมเชยหนุนใจ 3.ฟื้นฟูสิทธิอำนาจของพระเจ้า และเริ่มต้นโดยการพึ่งพาพระเจ้าก่อนเสมอ